งาคืออะไร และ งามีประโยชน์อย่างไร

“งา” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum Linn. ชื่ออื่นๆ คือ งาดำ งาขาว เป็นไม้ล้มลุก ผลเป็นฝัก มีเมล็ดเล็กๆ สีขาวหรือสีดำ มีการเพาะปลูกมานาน ต้นงานั้นมีความสูงระหว่าง 0.5 – 2.5 เมตร ขึ้นกับสภาพที่ปลูก บางพันธุ์ก็มี

กิ่งก้าน บ้างก็ไม่มี ในแกนหนึ่งมีดอกราว 3 ดอก เมล็ดนั้นมีสีขาวยาวราว 3 มิลลิเมตร เมื่อแห้ง เปลือกเมล็ดจะเปิดอ้า และเมล็ด จะหลุดออกมา การเก็บงาจึงต้องอาศัยแรงงานคนเพื่อมิให้เมล็ดงาร่วงหล่น ภายหลังเมื่อไม่นานมานี้ มีการพัฒนาพันธุ์มิให้เมล็ด แตกกระจาย ทำให้สามารถเก็บด้วยเครื่องจักรได้

 

“งา” เมล็ดพืชเล็กจิ๋วที่อุดมไปด้วยสารอาหารมี 2 แบบ คือ งาดำ และงาขาว นอกจากนี้ยังมีน้ำมันงาที่ใช้ปรุง อาหารได้ดี เพราะมีกลิ่นหอม และกรดไขมันที่มีประโยชน์ โปรตีนในงามีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดอะมิโนเมธิโอนีน (ในถั่วเหลืองมีกรดอะมิโนที่จำเป็นตัวนี้น้อยกว่า) และยังมีสารที่สกัดจากงาชื่อว่า เซซามิน ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งตับด้วย ชาวมังสวิรัติจึงนิยมโรยงาลงไปในอาหารถั่วเหลืองที่ปรุงแล้ว เพื่อให้มีสารโปรตีนสมบูรณ์มากขึ้น

 

“งา” เป็นอาหารที่สามารถบำรุงกำลังได้เป็นอย่างดี และยังให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันอาการท้องผูก บำรุงกระดูก บำรุงรากผม รักษาอาการนอนไม่หลับ และยังช่วยควบคุมระดับ คอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด น้ำมันงาใช้ทาผม จะทำให้ผมดำเป็นมันวาว ไม่แห้งแตกปลายแก้ปัญหาผมร่วง และใช้ทาผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้น ลดรอยหยาบกร้าน ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง

เมื่อพูดถึง งาบ้านเราส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ งาดำ และงาขาวซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดแบนเล็กๆสีดำและสีขาวตามที่น้องไก่ได้นำรายละเอียดมาให้รู้จักแล้วงาดำ-งาขาว แต่ถ้าเป็นคนภาคเหนือจะรู้จักงาอีกชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นเม็ดกลมๆเล็กๆสีน้ำตาลเรียก “งาขี้ม้อน” เป็นพืชพื้นถิ่นทางภาคเหนือที่มักปลูกกันมากบนดอย งาขี้ม้อนเป็นงาพื้นเมืองซึ่ง มีกลิ่นเฉพาะตัว ให้ผลผลิตมากในช่วงต้นฤดูหนาว